13 วิธีชำระกายสบายสุขภาพใน วันสงกรานต์ กับ อีฟอะโรส

1.หลีกเลี่ยงการอยู่ในฝูงชนจำนวนมากเพราะน้ำคือหนึ่งในพาหะที่สามารถถ่ายเทเชื้อโรคจากบุคคลหนึ่งไปสู่อีกบุคคล หนึ่งได้รวดเร็วทั้งทางผิวหนัง และการดื่มกิน

2.เชื้อโรคที่ติดต่อกันทางสัมผัส ถือเป็นภัยเงียบที่คุกคาม โรคตาแดง ท้องร่วง ไข้หวัด ล้วนสืบเนื่องมาจากการดูแลตัวเองให้สะอาดตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า สามารถป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงการสะสมของแบคทีเรีย ที่จะก่อให้เกิดเชื้อโรคต่างๆ วิธีที่ดีที่สุดคือ การดูแลร่างกายให้สะอาดหมดจดด้วยการอาบน้ำอย่างถูกวิธี

3.ควรเริ่มอาบน้ำจากบริเวณปลายมือ หรือปลายเท้า เพื่อปรับอุณหภูมิในร่างกาย ก่อนจะราดน้ำอาบทั้งตัว

4.ควรเช็กอุณหภูมิของน้ำให้พอดีกับอุณหภูมิ ในร่างกายของเรา เช่น ถ้าเพิ่งออกกำลังกายมาใหม่ๆ อย่าเพิ่งแช่น้ำเย็นจัดในทันที เพราะธรรมชาติของร่างกายจะค่อยๆ ปรับอุณหภูมิลงสู่ระดับที่เหมาะสม

5.ควรอาบน้ำให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น ถ้าเป็นคนผิวแห้ง มีผื่นคันขึ้นง่าย ไม่ควรอาบน้ำอุ่น หรือร้อนจัด เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง

6.การแช่บ่อน้ำพุร้อนนอกเหนือจากการอาบน้ำทำความสะอาดผิวแล้ว อุณหภูมิของน้ำในบ่อน้ำร้อนยังสามารถช่วยคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ คืนความสดชื่น ไปพร้อมๆ กับการบำรุงผิว ด้วยประโยชน์ อันหลากหลายของแร่ธาตุนานาชนิด

7.ก่อนอาบน้ำ ลองขัดผิวโดยการจับปลายผ้าขนหนูแห้งไว้ทั้ง 2 ข้าง แล้วเริ่มถูไปตามร่างกาย จุดละประมาณ 20 ครั้ง เพื่อขจัดคราบไคล ฝุ่นละอองต่างๆ รวมทั้งเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดไป

8.การอาบน้ำเย็น ควรให้อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 21-27 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยลดอาการอ่อนเพลียของกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง รวมถึงช่วยเรื่องระบบหายใจ ให้ดีขึ้น

9.การอาบน้ำจากชาเขียว กำลังเป็นที่นิยม เพราะเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาความร้อนภายในหรืออาการไข้ รวมทั้งยังช่วยป้องกันการติดเชื้อ โรคติดต่อต่างๆ นอกจากนั้นยังช่วยบรรเทาอาการปวด และทำให้ผิวพรรณดีขึ้น

10.เหงื่อมีสาร เดอร์ เมดิซีน มีสรรพคุณช่วยปกป้องผิวหนังจากการอักเสบที่ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นคัน    มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียก่อนที่แบคทีเรียจะทำอันตรายกับผิว การอาบน้ำล้างหน้าบ่อยๆ จึงทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังง่ายขึ้น การอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น จึงดีที่สุด

11.สารระคายเคืองต่อผิวหนังคือสิ่งที่จะทำให้ยาฆ่าเชื้อบนผิวหนังถูกกำจัดการเลือกซื้อน้ำยาต่างๆ
ควรเลือกชนิดที่ไม่ทำความระคายเคืองให้กับผิวหนัง สังเกตได้หลังจากการใช้ จะทำให้ผิวแห้งผากและเกิดอาการคัน

12.วิธีทดสอบยาสีฟันเพื่อจะได้รู้ว่ายาสีฟันนั้นใส่สารที่ทำลายเคลือบฟันรุนแรง หรือไม่ ให้นำยาสีฟันที่คุณใช้บีบขนาดประมาณเม็ดข้าวโพดถูไปถูมาบนปฏิทินตั้งโต๊ะ ประมาณ 20 ครั้ง ถ้าสีของปฏิทินซีดจางเป็นสีขาว แสดงว่ายาสีฟันที่คุณใช้มีสารทำลายเคลือบฟันในปริมาณมาก ถ้าใช้ไปนานๆ จะทำให้ฟันกร่อน ฟันจะบางลง เกิดอาการเสียวฟันตามมา หรือบีบขนาดประมาณเม็ดข้าวโพดลงในแก้วแล้วเติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน หยดสารละลายไอโอดีนลงไป ถ้าน้ำเปลี่ยนเป็นสีดำหรือม่วงแสดงว่ายาสีฟันนั้นมีแป้งผสมอยู่ 

13.วิธีทดสอบครีมอาบน้ำ นำครีมอาบน้ำหรือเจล เทใส่แก้วเล็กน้อยแล้วนำเกลือเทลงในแก้วคนให้เข้ากันถ้าเกลือไม่ละลายจับตัว เป็นก้อนกับครีมอาบน้ำแสดงว่าครีมอาบน้ำยี่ห้อนั้นไม่สามารถทำความสะอาดผิว หลังจากนั้นให้นำน้ำเปล่าเทใส่แก้วที่มีเกลือกับครีมที่ได้ผสม

ขอกราบขอบพระคุณบทความดีๆจากนิตยสาร  WOMEN PLUS ภาพประกอบจาก Mthai.com

Posted and shared by WWW.EVEAROSE.COM the best skincares in Thailand ครีมหน้าใสที่ขายดีที่สุด ครีมหน้าใสที่ดีที่สุด  ครีมหน้าใสที่เห็นผลไวที่สุด ยอดขายอันดับ 1