white booster

12  ประการต้านริ้วรอยก่อนวัย

กว่าจะ อัพเดท รวบรวมสรุปข้อมูลในเรื่องของการต่อต้านริ้วรอยก่อนวัยอย่างไรให้เข้าใจง่ายและถูกใจได้ก็ใช้เวลาพอสมควร แต่ก็คุ้มค่าแสนมหาศาลที่ข้อมูลอันทรงคุณประโยชน์เหล่านี้จะส่งเป็นของขวัญคืนสู่ท่านลูกค้า Evearose ทุกท่านด้วยใจจริง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว การที่ลูกค้าได้รับผลิตภัณฑ์ที่ประสิทธิภาพเยี่ยมจากเราไปใช้เท่านั้นคงไม่พอ มาคราวนี้มาดามอีฟของคุณลูกค้าEvearose ก็ยังมีเคล็ดไม่ลับแถมยังเผยไต๋หมดเปลือกให้ได้หน้าเด้งใสสุขภาพเด้งดึ๋งดั่งใจไร้ปัญหากวนใจจากริ้วรอยก่อนวัยอย่างได้ผลจนแทบไม่ต้องไปเปิดตำราหาให้ปวดหัวจากแหล่งอื่นเลยทีเดียวค่ะ

ขอต้อนรับ สูตรเด็ดปกป้องความอ่อนเยาว์เสียตั้งแต่วันนี้ก่อนที่จะสายเกินไป ด้วย 12 วิธีง่าย ๆ ที่ทำได้ไม่ลำบาก ดังนี้

1.หลีกให้ห่างจากแดดจ้า     แสงแดดเป็นศัตรูตัวร้ายที่ทำลายผิวสวย ๆ เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ฝ้า กระ แม้กระทั่งริ้วรอยก่อนวัย ควรใช้กันแดดเป็นประจำเพื่อเป็นปราการต่อต้านริ้วรอย และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดให้เหมาะสมกับกิจกรรมด้วย   แสงแดด ทั้งรังสียูวีเอ ที่ทำลายโครงสร้างของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น รังสียูวีบีที่ทำให้เกิดผิวหนังดำคล้ำ หรือทำให้เซลล์ผิวหนังเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็ง ดังนั้นจึงต้องป้องกันด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF (สำหรับป้องกันรังสียูวีบี) และค่าPA(สำหรับป้องกันรังสียูวีเอ)ที่เพียงพอและทาเป็นประจำ

2.แต่งหน้าสร้างความสวย แต่ทำลายผิวสาว

เครื่องสำอางแต่งหน้าก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นต้นเหตุของริ้วรอยก่อนวัยหากใช้แล้วล้างไม่สะอาดปล่อยให้ตกค้างอยู่บนใบหน้าหรือแม้การล้างเครื่องสำอางหากขัดถูแรงและหลากหลายขั้นตอนรุนแรงก็ทำให้เกิดริ้วรอยได้เช่นกัน ดังนั้นต้องสัมผัสใบหน้าให้นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อไม่เป็นการรบกวนผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราได้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าทรงประสิทธิภาพและอัดแน่นด้วยคุณค่าจากธรรมชาติแล้วที่สามารถทำความสะอาดอย่างหมดจดในขั้นตอนเดียวแล้ว นับเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมต่อการเสริมสร้าง ฟื้นฟูและต่อต้านริ้วรอยอย่างได้ผล

3. เลือกทานต้านริ้วรอย

คุณเคยได้ยินคำว่า“ You are… what you eat ” ไหมคะ  คำนี้เป็นเรื่องจริงและเป็นสัจธรรมอยู่เสมอ ควรเลือกรับประทานจำพวกผัก ผลไม้ และอาหารไขมันต่ำ จะช่วยให้ผิวพรรณแข็งแรงพอที่จะต่อต้านสิ่งที่จะมาทำลายผิวให้อ่อนแอจนเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยได้ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และควรจะละ ลด เลิก บริโภคสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณ ลดปริมาณของหวานและน้ำตาล เพราะนอกจากน้ำตาลจะมีผลต่อรูปร่างและน้ำหนักแล้ว ยังผลต่อผิวพรรณของเราอีกด้วย เพราะจะส่งผลให้คอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังมีปริมาณน้อยกว่าปกติ ผิวหนังจะขาดความชุ่มชื้นและเกิดริ้วรอยได้ ดังนั้นควรลดการปริโภคน้ำตาลและของหวาน เพื่อผิวสวยจะได้อยู่ต่อไปนาน ๆ    จงจำไว้เครื่องสำอางไม่ว่าจะทรงประสิทธิภาพแค่ไหน ก็ไม่ทำให้หน้าตาดูดีได้หากแต่สิ่งที่สำคัญคือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ต่อร่างกายและผิวพรรณต่างหากที่สำคัญที่ทำให้คุณดู หน้าตาสดใสอ่อนเยาว์ตลอดไปค่ะ

4.ดูแลความสะอาดของผิวพรรณ

เป็นวิธีช่วยเพิ่มเสน่ห์ของผิวพรรณได้อีกทางหนึ่ง เพราะจะทำให้ผิวสดชื่นปลอดจากเชื้อโรคหรือเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง การอาบน้ำอุ่นอุณหภูมิพอเหมาะ (ประมาณ 38 องศาเซลเซียส) จะช่วยทำความสะอาดผิวหนังได้ดีมาก และยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แต่หากอาบน้ำอุ่นจัดเป็นเวลานานเกินไปอาจทำให้อ่อนเพลียได้ง่าย ส่วนสบู่ที่มีฤทธิ์แรงและจะทำลายไขมันตามธรรมชาติที่เคลือบอยู่บนผิว ทำให้ผิวแห้ง หลังอาบน้ำควรทาครีมบำรุงผิวให้ทั่วตัว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว การอาบน้ำนอกจากจะเพิ่มความหมดจดให้กับผิวแล้ว ยังช่วยถนอมผิวให้สดใสเปล่งปลั่งขึ้นอีกด้วยค่ะ แต่สำหรับคนผิวแห้งควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น และไม่ควรอาบน้ำเกิน 2 ครั้งต่อวันนอกจากในวันที่อากาศร้อน เหงื่อออกเยอะ อาจจะอาบเพิ่มได้ แต่เลือกฟอกสบู่เฉพาะบริเวณที่มีต่อมไขมันสูง เช่นแผ่นหลัง หรือหน้าอก และใช้เวลาในอาบน้าให้น้อย อย่าลืมทาครีมบำรุงผิวด้วยค่ะ โดยเฉพาะตามแขนขา ซึ่งจะแห้งเป็นพิเศษ เพราะมีต่อมไขมันค่อนข้างน้อย การล้างหน้าควรล้างเท่าที่จำเป็นอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง อย่าล้างบ่อยจนเกินไป จะทำให้เกิดสิวได้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ควรเลือกที่ไม่มีฟองมากนัก เพราะฟองมากๆ จะทำให้ผิวหน้าแห้งตึงได้ง่ายหลีกเลี่ยงการกระทำที่รุนแรงกับใบหน้า เช่น การถู การขัด การนวดผิวหน้ามากเกินไป และ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าทรงประสิทธิภาพด้วยคุณค่าจากธรรมชาติแล้วที่สามารถทำความสะอาดอย่างหมดจด นับเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมต่อการเสริมสร้าง ฟื้นฟูและต่อต้านริ้วรอยอย่างได้ผล

5.งดหรือลดการสูบบุหรี่ และดื่มสุรา

ผู้ที่สูบบุหรี่จัดจะรอยย่นเห็นชัดมากขึ้น เมื่อสูบประมาณ 50 ซอง/ปี ถ้าตากแดดนานกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน รอยย่นชัดมากในชายและหญิง ถ้าผู้หญิงสูบประมาณ 10 ซอง/ปี จะแก่เกินวัยไป 1.4 ปี อาจเป็นเพราะว่าใยอีลาสติน(ยืดหยุ่น) เสื่อมในคนที่สูบบุหรี่ อีลารตินในผิวหนังชั้นกลางเสื่อม แต่ที่ผิวหนังแท้ชั้นบนปกติ ซึ่งผิดกับผู้ที่ได้รับแสงแดด ใยอีลาสตินเสื่อม ที่ผิวชั้นบน ไวตามินในผิวลดลงเมื่อสูบบุหรี่ เช่น ไวตามินอี, ไวตามินซี, เบต้าคารอตีน, เรตินอล ลดลงเกือบ 50% นอกจากนี้ ยังลดในกระแสเลือดด้วย ซึ่งอาจเป็นผลทำให้ใยในผิวชั้นกลางเสื่อม การไหลเวียนของโลหิต ลดลงทันที แม้เพียงสูบบุหรี่แค่ 1 ตัวเท่านั้น

6.ดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร หรือ 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว

เริ่มจาก ตื่นนอน ดื่มไปเลย 1 แก้ว เพราะร่างกายจะเสียน้ำไปเยอะทีเดียวขณะนอนหลับ หลังอาบน้ำ แช่น้ำร้อนก็ดื่มสักแก้ว ระหว่าง 3 มื้ออาหาร ดื่มอย่างละแก้ว เพราะจะช่วยให้เรากินไม่มากเกินไปอีกต่างหาก ก่อนและหลังออกกำลังกาย อีกอย่างละแก้ว ตบท้ายด้วยตอน ก่อนนอน อีก 1 แก้ว และถ้าใครอยากดีท็อกซ์ขับไล่ของเสียในร่างกาย ลองดื่มระหว่างแช่น้ำร้อนก็ได้ผลดีเหมือนกัน

7.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ผิวได้ออกกำลังกายไปด้วย หรือเพียงแค่ขยับยืดเส้นยืดสายทุกส่วนของร่างกายในจำนวนครั้งที่เท่ากัน ภายใต้คำแนะนำดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ก็ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และมีผิวที่สุขภาพดีไปพร้อม ๆ กัน

8.ไม่บีบสิว  แคะ แกะ หรือเกา ผิวหนัง การบีบ กดหรือแกะสิวเป็นเหตุให้ผิวหน้าไม่เรียบและเกิดรอยดำ ที่เป็นเช่นก็เกิดจากการที่เวลาเราเป็นสิวแล้วเมื่อไปบีบแกะสิวร่างกายจะผลิตสารแอนติบอดี้เพื่อต่อสู้จากการติดเชื้อจากภายนอก สารแอนติบอดี้นี่แหละ จะทำลายคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวหนังเรา ทำให้เกิดรอยหลุมของสิวปรากฏขึ้นบนใบหน้า และอาจะเห็นเป็นชัดเจนเมื่อจุดเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ และมีหลาย ๆ จุดรวมกัน

9.สกัดความเครียด ความเครียดเป็นตัวการสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ผิวเสื่อมก่อนวัย เมื่อเราเครียดผิวก็จะเครียดไปด้วย วิธีแก้นั้นไม่ยากเลย ด้วยการฝึกจิตให้สงบ ทำสมาธิ การเล่นโยคะจะเป็นการสร้างสมาธิให้กับเรา การฝึกผ่อนลมหายใจไปพร้อม ๆ กับการยืดเส้นสายตามแบบโยคะ จะช่วยให้กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ให้ช่วยส่งผ่านออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆทั่วร่างกาย ลดความเครียดได้อีกทาง ส่วนการแสดงอารมณ์จัดๆ ด้วยการยกหน้าผากขึ้นลงเวลาพูดกับคนอื่น ใช้วิธีสื่อสารด้วยท่าทางอื่นๆ แทนท่าทางนี้ได้ และเมื่ออยู่คนเดียวลองฝึกวางสีหน้าให้ดูผ่อนคลายบ้าง

10.อย่าอยู่ในที่ๆมีอากาศร้อนหรือเย็นจัด

การที่ผิวเราสัมผัสกับสภาพวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวเราเครียดได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผิวต้องใช้พลังงานอย่างมากในการปรับความสมดุลให้กับอุณหภูมิในร่างกาย ทำให้ความสามารถในการรับมือกับปัจจัยทำลายผิวอื่นๆ เช่น รังสียูวี ได้น้อยลงเป็นเหตุให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น

11.ขัดผิวอย่างอ่อนโยน

เลือกสครับเม็ดละเอียดมีผลช่วยปรับสีผิวและเนื้อผิวให้นวลเนียนและนุ่มนวลขึ้น ถ้าหากต้องการให้ผิวค่อยๆขาวเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ลอกเซลล์ผิวหรือมาส์กก็ได้ แต่การใช้วิธีนี้จะทำให้ผิวไวต่อการรับแสง เพราะฉะนั้นถ้าหากจะทำควรทำตอนกลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงแสงจะดีกว่า

12. พักผ่อนอย่างเพียงพอ

ปัจจุบันชีวิตที่เร่งรีบ แข่งขัน ทำงานหนัก อดหลับอดนอน ทำให้สุขภาพทรุดโทรม ผิวพรรณหมองคล้ำเกิดริ้วรอย ดังนั้นควรพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผิวพรรณสดใส การนอนพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 6-8 ชม.ผิวจะได้รับการซ่อมแซมในส่วยที่ถูกทำลาย การพักผ่อนจะช่วยฟื้นฟูความอ่อนล้าของผิว ที่เราเผชิญมาตลอดวันได้   ออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนดีขึ้นทำให้ผิวหนังได้รับสารอาหารและออกซิเจนเพิ่มมากขึ้น หากจะให้ดูอ่อนเยาว์มากยิ่ง

 Added Picture from http://fic.ifrpd.ku.ac.th

posted and shared by

www.evearose.com ครีมหน้าใส ที่ดีที่สุด ครีมหน้าใสที่ยอดขายสูงสุด ครีมหน้าใสที่กระแสมาแรงมากที่สุด